เรื่องราวความสำเร็จของเรา Archives - SCG International https://scginternational.com/th/category/our-success-stories/ Tue, 20 May 2025 06:00:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.7 https://storage.googleapis.com/scgintl-web-storage-lb2/2025/04/a4d8fff4-cropped-12b46a86-test_logo-32x32.jpg เรื่องราวความสำเร็จของเรา Archives - SCG International https://scginternational.com/th/category/our-success-stories/ 32 32 End-to-End Supply Chain Service พลิกทุกวิกฤติให้เป็นโอกาส https://scginternational.com/th/our-success-stories/end-to-end-supply-chain-services-benefit-business/ Fri, 19 Jan 2024 10:26:56 +0000 https://scginternational.com/?p=12180 Supply Chain หรือ ห่วงโซ่อุปทาน คือ กระบวนการจัดการที่ทำให้เกิดสินค้าหรือบริการขึ้นมา ซึ่งทุกกระบวนการจะต้องทำงานประสานกัน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บสินค้า และการนำส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าปลายทาง หากกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งเกิดปัญหา ก็อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานถึงคราวต้องพังทลาย บทความนี้ ชวนทุกท่านมาอ่าน Case Study น่าสนใจ เมื่อบริษัทรีไซเคิลอะลูมิเนียมรายใหญ่ ประสบกับปัญหาความท้าทายด้าน Supply Chain ที่ทำให้ธุรกิจต้องสะดุด มาดูกันว่า SCG International ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการ End-to-End Supply Chain Service ครบวงจร ที่มีประสบการณ์มานานกว่า 40 ปี จะมีโซลูชันใดบ้าง ที่สามารถเปลี่ยนอุปสรรคให้กลายเป็นโอกาส เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ 4 ปัญหาหลักด้าน Supply Chain ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบ ปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบอาจเกิดได้จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศที่แปรปรวน หรือสถานการณ์โรคระบาด [...]

The post End-to-End Supply Chain Service พลิกทุกวิกฤติให้เป็นโอกาส appeared first on SCG International.

]]>

Supply Chain หรือ ห่วงโซ่อุปทาน คือ กระบวนการจัดการที่ทำให้เกิดสินค้าหรือบริการขึ้นมา ซึ่งทุกกระบวนการจะต้องทำงานประสานกัน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บสินค้า และการนำส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าปลายทาง หากกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งเกิดปัญหา ก็อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานถึงคราวต้องพังทลาย

บทความนี้ ชวนทุกท่านมาอ่าน Case Study น่าสนใจ เมื่อบริษัทรีไซเคิลอะลูมิเนียมรายใหญ่ ประสบกับปัญหาความท้าทายด้าน Supply Chain ที่ทำให้ธุรกิจต้องสะดุด มาดูกันว่า SCG International ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการ End-to-End Supply Chain Service ครบวงจร ที่มีประสบการณ์มานานกว่า 40 ปี จะมีโซลูชันใดบ้าง ที่สามารถเปลี่ยนอุปสรรคให้กลายเป็นโอกาส เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

4 ปัญหาหลักด้าน Supply Chain
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลก

ปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบ

ปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบอาจเกิดได้จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศที่แปรปรวน หรือสถานการณ์โรคระบาด ทำให้วัตถุดิบที่ได้มีไม่เพียงพอ เนื่องจากการพึ่งพา Supplier เพียงแหล่งเดียว ทำให้ไม่สามารถรวบรวมวัตถุดิบได้เลย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือ รายได้ และทำให้กระบวนการอื่น ๆ ติดขัดตามไปด้วย

ความซับซ้อนในการติดต่อกับตลาดนานาชาติ

เพราะแต่ละประเทศมีกฎระเบียบและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป การที่จะเข้าไปติดต่อกับตลาดนานาชาติเพื่อหาโอกาสใหม่ ๆ ต้องมีการศึกษาและทำความเข้าใจใหม่ทุกครั้ง ความยุ่งยากเหล่านี้จึงกลายเป็นอุปสรรคที่ชะลอการเติบโตของธุรกิจ

ต้นทุนที่สูงขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระบวนการ Supply Chain นั้นมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน และแต่ละขั้นตอนก็ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้งานผ่านไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานระหว่างประเทศ, การจัดส่ง และการรวบรวมวัตถุดิบจากแหล่งใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าที่มีความอ่อนไหวและเสี่ยงต่อการปนเปื้อน อย่างสินค้าประเภทเคมีภัณฑ์ ที่จะต้องมีการตรวจสอบเรื่องความบริสุทธิ์ของสารเคมี จึงต้องมีการจัดเก็บที่เหมาะสม รวมถึงมีการติดฉลากที่ถูกต้องด้วย ซึ่งหากกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งเกิดปัญหา ก็ย่อมทำให้ธุรกิจไม่อาจเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นเท่าที่ควร

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการ End-to-End Supply Chain Service ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง ที่มาพร้อมกับเครือข่าย ต่างประเทศที่แข็งแกร่ง และการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้ในทุกสถานการณ์

กระบวนการที่ซับซ้อน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระบวนการ Supply Chain นั้นมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน และแต่ละขั้นตอนก็ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้งานผ่านไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานระหว่างประเทศ, การจัดส่ง และการรวบรวมวัตถุดิบจากแหล่งใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าที่มีความอ่อนไหวและเสี่ยงต่อการปนเปื้อน อย่างสินค้าประเภทเคมีภัณฑ์ ที่จะต้องมีการตรวจสอบเรื่องความบริสุทธิ์ของสารเคมี จึงต้องมีการจัดเก็บที่เหมาะสม รวมถึงมีการติดฉลากที่ถูกต้องด้วย ซึ่งหากกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งเกิดปัญหา ก็ย่อมทำให้ธุรกิจไม่อาจเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นเท่าที่ควร

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการ End-to-End Supply Chain Service ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง ที่มาพร้อมกับเครือข่าย ต่างประเทศที่แข็งแกร่ง และการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้ในทุกสถานการณ์

Real Case: ส่องตัวอย่างธุรกิจที่ใช้บริการ
End-to-End Supply Chain Service กับ SCG International

เมื่อบริษัทรีไซเคิลอะลูมิเนียมรายใหญ่ ที่ต้องการ Aluminium Scrap หรือ เศษชิ้นส่วนอะลูมิเนียม มารีไซเคิล เพื่อผลิตกระป๋องเครื่องดื่มและบรรจุภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ ต้องเจอกับปัญหาความท้าทายด้าน Supply Chain มาดูกันว่า SCG International ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้าน Supply Chain ครบวงจร จะมีแนวทางการรับมือกับปัญหาอย่างไร

อุปสรรคที่เจอ

การรวบรวม Aluminium Scrap เป็นเรื่องยาก เพราะต้องรวบรวมจากหลากหลายแหล่งย่อย ๆ หรือ จากหลายประเทศ ซึ่งการที่จะเข้าไปรวบรวมจากแต่ละประเทศ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องกฎหมาย ต้องมีทีม QC ตรวจสอบ เพื่อระวังการปนเปื้อน และยังมาพร้อมกับต้นทุนในการบริหารจัดการที่สูง ทั้งเรื่องความต้องการของลูกค้า, การบริหารสต๊อกสินค้า, การบริหารด้านการเงิน รวมไปถึงอุปสรรคด้านความท้าทายจากการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบต่าง ๆ ในแต่ละประเทศ, การแพ็กสินค้าให้เหมาะสมกับลักษณะการขนส่งโลจิสติกส์ที่ไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร

5 บริการที่ SCG International นำมาช่วยแก้ปัญหา
เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้

1. Demand Sensing & Consolidation

เราทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมวัตถุดิบที่ต้องการ ในราคาและคุณภาพที่เหมาะสม ให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณซื้อ ถึงจะซื้อจำนวนน้อย ก็ยังได้ราคาที่คุ้มค่า เพราะเรามีเครือข่าย Supplier ที่แข็งแกร่ง และมีลูกค้าหลากหลายบริษัท ทำให้สามารถรวมปริมาณการซื้อในราคาที่เหมาะสมได้ และเรายังสามารถคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าในตลาดได้อย่างแม่นยำ แม้ในสถานการณ์ที่ผันผวน นำไปสู่การวิเคราะห์และวางแผนสำหรับการจัดเตรียมสต็อก, ผลิต และจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Sourcing Validation & Inspection

เรามีทีม Inspection ดูแลตั้งแต่สถานะการจัดเก็บเศษอะลูมิเนียมและการขนย้าย เพื่อให้ได้เศษอะลูมิเนียมที่ไม่มีสิ่งปนเปื้อนในระหว่างกระบวนการต่าง ๆ โดยเริ่มจากการช่วยคัดกรอง Supplier ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ รวมถึงตรวจสอบคุณภาพเศษอะลูมิเนียมให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ ซึ่งจะทำการตรวจเช็กตั้งแต่ กระบวนการต้นทางที่รวบรวม การคัดแยก การ Packing ตลอดจนการจัดส่ง จนสินค้าเดินทางมาถึงโรงงานผลิตของลูกค้า อย่างบริษัทรีไซเคิลอะลูมิเนียม เพื่อให้ลูกค้าได้รับเศษอะลูมิเนียมที่มีคุณภาพ ตามความต้องการ พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ต่อไป

3. Financial Solutions

โซลูชันด้านการเงิน ที่จะช่วยทำให้กระบวนการดำเนินงานของธุรกิจเป็นไปได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด

4. Logistics & Warehousing

ด้วยประสบการณ์ในการร่วมงานด้านการจัดการโลจิสติกส์และคลังสินค้ากับพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงลูกค้าในหลากหลายกลุ่มธุรกิจทั่วโลก ทำให้เรามีความชำนาญในกระบวนการจัดการโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร หรือกฎระเบียบระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่มีความยุ่งยาก เราก็สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนได้ นอกจากนี้ เรายังเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ ให้สินค้าสามารถจัดส่งได้ตรงเวลา ภายใต้การออกแบบการขนส่งที่ยืดหยุ่น เหมาะกับความต้องการ และการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพตลอดทั้งกระบวนการ รวมถึงการปรับรูปแบบการแพ็กให้เหมาะกับการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเราได้เข้าไปช่วยทำ Standard Packing เพื่อให้สามารถขนส่ง Aluminium Scrap ระหว่างประเทศได้ ซึ่งประโยชน์ของบริการ End-to-End Supply Chain Service ในข้อนี้ ก็คือการที่เราสามารถลดภาระด้านการจัดการโลจิสติกส์และคลังสินค้าให้กับลูกค้าธุรกิจได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจของเราได้มีเวลาไปโฟกัสกับงานด้านอื่น ๆ

5. Inventory Management

จากการที่เราทำ Demand Sensing ได้แม่นยำ ทำให้ลูกค้าธุรกิจของเรามีวัตถุดิบและสินค้าพร้อมจำหน่ายอยู่เสมอ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ไม่ว่าจะเจอกับวิกฤตอะไร ไม่ว่าลูกค้าธุรกิจจะต้องการ Aluminium Scrap เมื่อไหร่ เราก็สามารถรวบรวมและจัดส่งให้ได้ทันที และยังสามารถทำการติดต่อกับเครือข่าย Supplier ที่มี เพื่อให้สามารถรวบรวมของได้โดยเร็วที่สุด ทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องวัตถุดิบและสินค้าขาดสต๊อก แม้จะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

real-case-e2e-supplychain-scg-international

สิ่งที่ทำให้บริการ End-to-End Supply Chain Service
เป็นบริการที่ ‘แตกต่าง’ จาก Supply Chain Service แบบเดิม ๆ

จากปัญหาด้าน Supply Chain ที่กล่าวถึงไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าสาเหตุหลักของปัญหา เกิดจากการให้บริการ Supply Chain ในรูปแบบเดิม ๆ นั่นก็คือการทำตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งอาจเป็นเพียงบางส่วน จากกระบวนการ Supply Chain ทั้งหมด ในขณะที่ SCG International เราทำงานในฐานะ ‘Partner’ เพื่อนำเสนอบริการ End-to-End Supply Chain Service รูปแบบใหม่ โดยเป็นโซลูชันที่ดูแลครอบคลุมทุกกระบวนการ ทั้งเครือข่ายที่แข็งแกร่ง, การบริการที่ครบวงจร, การคำนวณความต้องการสินค้าที่แม่นยำ, การคัดสรรวัตถุดิบให้มีคุณภาพ, การบริการด้านการเงินที่ยืดหยุ่น, การจัดส่งที่เชี่ยวชาญ, การบริหารจัดการสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และเรายังมีช่องทางทำการตลาดและจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง ซึ่งสินค้าที่เราจัดหาครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม, การก่อสร้าง, สินค้าเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัย, บรรจุภัณฑ์ และสินค้ากลุ่มพลังงาน ซึ่งบริการทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมาพร้อมกับการช่วยแก้ปัญหา คาดการณ์ปัญหาล่วงหน้า และมองภาพรวมทั้งหมดที่ลูกค้าอาจต้องเผชิญ โดยอาศัยประสบการณ์ของเรา

โดยเราเป็นบริษัทที่มี End-to-End Supply Chain Visibility ครอบคลุม สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทุกกระบวนการได้อย่างราบรื่น ทำให้เราสามารถตอบสนองต่อทุกการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความคล่องตัว และช่วยบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจกล่าวได้ว่า บริการ End-to-End Supply Chain Service ของ SCG International คือกระบวนการที่มีความทันสมัย โปร่งใส และยืดหยุ่นกว่า Supply Chain Service แบบเดิม ๆ

เพราะในระหว่างการเติบโตของธุรกิจ อาจต้องเจอกับวิกฤติโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ SCG International พร้อมอยู่เคียงข้างและดูแลลูกค้าด้วยโซลูชันที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ที่แต่ละธุรกิจต้องเจอ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาไปบริหารจัดการส่วนอื่นได้อย่างไร้กังวล และปล่อยให้การรับมือกับปัญหา เป็นหน้าที่ของเรา

จากความสำคัญของ End-to-End Supply Chain Service ใน Case Study ที่เรานำมาฝากกันนี้ หากเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาบริษัทผู้ให้บริการ Supply Chain ครบวงจร สามารถปรึกษาเราได้เลย SCG International คือผู้ให้บริการด้าน End-to-End Supply Chain Service ที่มีประสบการณ์ด้านการจัดหาสินค้าและการจัดการ Supply Chain มานานกว่า 40 ปี พร้อมด้วยเครือข่ายมากถึง 50 ประเทศทั่วโลก เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวข้ามทุกวิกฤติ ด้วยกระบวนการทำงานที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เรามีบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญในทุกกระบวนการ โดยที่คุณไม่ต้องไปค้นหาผู้ให้บริการรายอื่น เพิ่ม

The post End-to-End Supply Chain Service พลิกทุกวิกฤติให้เป็นโอกาส appeared first on SCG International.

]]>
ร่วมขับเคลื่อนโครงการเทอร์มินอล 3 สนามบินใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ https://scginternational.com/th/our-success-stories/collaborative-bangladeshs-largest-airport-terminal/ Tue, 21 Nov 2023 08:01:54 +0000 https://scginternational.com/?p=11796 โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ของสนามบินนานาชาติชาห์จาลาล (3rd Terminal Hazrat Shahjalai International Airport) สนามบินนานาชาติแห่งเดียวและมีขนาดใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ โดยโครงการก่อสร้างนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 8 ล้านคน เป็น 24 ล้านคนต่อปี สามารถจอดเครื่องบินได้ 37 ลำได้ในคราวเดียว รวมไปถึงเพิ่มการขนถ่ายสินค้าส่งออกของสนามบินได้มากขึ้นสามเท่า ส่งเสริมการส่งออกทางการเกษตรของประเทศ จาก 200,000 ตันเป็น 500,000 ตันต่อปี ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากหลายฝ่าย หนึ่งในนั้นคือผู้นำด้านโซลูชันซัพพลายเชนระหว่างประเทศที่ครบวงจรอย่าง เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ได้เข้ามามีบทบาทในการนำเอาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านซัพพลายเชนกว่า 40 ปีมาช่วยจัดหาสินค้าส่งมอบให้ ควบคู่ไปกับเข้าควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน ผ่านทีมงานจากเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาบังกลาเทศ (Global presences) บทบาทความร่วมมือและโซลูชันของ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีต่อความสำเร็จของโครงการ 1. การจัดหาสินค้าผ่านเครือข่ายระดับโลก เพื่อจัดหาสินค้าให้ตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะด้านคุณภาพหรือการใช้งานที่หลากหลาย โดยเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล [...]

The post ร่วมขับเคลื่อนโครงการเทอร์มินอล 3 สนามบินใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ appeared first on SCG International.

]]>

โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ของสนามบินนานาชาติชาห์จาลาล (3rd Terminal Hazrat Shahjalai International Airport) สนามบินนานาชาติแห่งเดียวและมีขนาดใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ โดยโครงการก่อสร้างนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 8 ล้านคน เป็น 24 ล้านคนต่อปี สามารถจอดเครื่องบินได้ 37 ลำได้ในคราวเดียว รวมไปถึงเพิ่มการขนถ่ายสินค้าส่งออกของสนามบินได้มากขึ้นสามเท่า ส่งเสริมการส่งออกทางการเกษตรของประเทศ จาก 200,000 ตันเป็น 500,000 ตันต่อปี ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากหลายฝ่าย หนึ่งในนั้นคือผู้นำด้านโซลูชันซัพพลายเชนระหว่างประเทศที่ครบวงจรอย่าง เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ได้เข้ามามีบทบาทในการนำเอาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านซัพพลายเชนกว่า 40 ปีมาช่วยจัดหาสินค้าส่งมอบให้ ควบคู่ไปกับเข้าควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน ผ่านทีมงานจากเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาบังกลาเทศ (Global presences)

บทบาทความร่วมมือและโซลูชันของ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล
ที่มีต่อความสำเร็จของโครงการ

1. การจัดหาสินค้าผ่านเครือข่ายระดับโลก

เพื่อจัดหาสินค้าให้ตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะด้านคุณภาพหรือการใช้งานที่หลากหลาย โดยเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมมือกับเครือข่ายทีมงานในต่างประเทศ (Global presences) อาทิ อินเดีย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาสินค้าจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพและช่วยดำเนินการทางซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นจนจบ

2. ับคู่สินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนลใส่ใจในการจัดหาสินค้าตั้งแต่กระบวนการจัดหาสินค้าจำนวนมากที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงจากแหล่งผลิตที่หลากหลาย โดยมีการตรวจสอบและทดสอบคุณภาพการใช้งานเป็นอย่างดี รวมถึงมีการจัดทำเอกสารรับรองที่สำคัญให้ทั้งหมด เพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงตามความต้องการอย่างแม่นยำและมีคุณภาพ

3. ควบคุมระยะเวลาจัดหาและส่งมอบให้ตรงเวลา

ด้วยประสบการณ์ด้านการจัดหาสินค้าและจัดการซัพพลายเชนมากว่า 40 ปี เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้นำเอาความเชี่ยวชาญดังกล่าวมาควบคุมกระบวนการทำงาน ตั้งแต่แหล่งผลิตไปจนกระทั่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ

โดยสินค้าที่เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ทำการจัดหาเข้ามาใช้ในการก่อสร้างได้แก่ ฉนวนกันความร้อน (Insulation) แผ่นยิปซั่ม (Gypsum Board) แผ่นแร่ (Mineral Board) โครงโลหะ (Metal Frame) แผ่นแคลเซียมซิลิเกต (Calcium Silicate Board) และกระดาษทิชชู่ไมโคร (Micro Woven Tissue) จากการดำเนินงานด้านซัพพลายเชนที่มีความยืดหยุ่น ความร่วมมือกับเครือข่ายการทำงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงคำแนะนำทางด้านเทคนิคต่าง ๆ จากทีมงานเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งผลให้หน่วยงานของประเทศบังกลาเทศสามารถก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ของสนามบินนานาชาติชาห์จาลาล (3rd Terminal Hazrat Shahjalai International Airport) ได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันการร่วมมือในครั้งนี้ก็เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ทีมงานของเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนลได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้เติบโตไปอีกขั้น ด้วยประสบการณ์ด้านการจัดหาและการจัดการซัพพลายเชนที่ครบวงจรมากว่า 40 ปี และมีเครือข่ายความร่วมมือจากซัพพลายเออร์คุณภาพกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทำให้เราพร้อมสร้างความเชื่อมั่นและมอบสินค้าและโซลูชันให้เหมาะสมกับความต้องการที่เฉพาะของลูกค้าและพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรูปแบบไหนเราก็พร้อมที่จะร่วมมือและก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน

The Hazrat Shahjalal International Airport in Bangladesh

The post ร่วมขับเคลื่อนโครงการเทอร์มินอล 3 สนามบินใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ appeared first on SCG International.

]]>
ร่วมมือต่อยอดแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืนในสิงคโปร์ https://scginternational.com/th/our-success-stories/keppel-bay-tower/ Fri, 03 Nov 2023 06:28:26 +0000 https://scginternational.com/?p=11759 หากพูดถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ เรามักจะนึกถึงสภาพอากาศที่เกิดภายนอกอาคาร แต่ในความป็นจริงแล้วอากาศภายในอาคารกลับเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้และอาจจะร้ายแรงกว่าสภาพอากาศภายนอกเสียด้วยซ้ำ จากผลสำรวจของสํานักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (U.S. Environmental Protection Agency : EPA) พบว่าระดับมลพิษทางอากาศภายในอาคารมักจะสูงกว่านอกอาคาร 2 ถึง 5 เท่า ในบางกรณีระดับเหล่านี้อาจจะเกิน 100 เท่าของระดับมลพิษทางอากาศชนิดเดียวกับภายนอกอาคาร ดังนั้นหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึงหันมาให้ความสนใจกับการนำเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์เข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้องค์กรมุ่งไปสู่ความยั่งยืนได้อีกด้วย เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการด้าน End-to-End Supply Chain ที่ครบวงจรตั้งแต่จัดหาสินค้า ช่วยตรวจสอบและไปจนถึงการช่วยลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์จัดหาช่องทางจัดจำหน่ายในประเทศต่างๆ ผ่าน connection และ global presences ทั่วโลก เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ยังให้ความสำคัญกับการเป็น ‘Trusted International Supply Chain Partner’ ที่จะเข้ามาช่วยให้ทั้งลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่ต้องการหาสินค้าหรือโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมสามารถก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรสีเขียวได้ตามเป้าหมาย ผ่านความเชี่ยวชาญด้านการจัดหาสินค้า เทคโนโลยีและโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมจากเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งของเอสซีจีอินเตอร์เนชั่นแนล ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนของเครือ SCG สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 [...]

The post ร่วมมือต่อยอดแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืนในสิงคโปร์ appeared first on SCG International.

]]>

หากพูดถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ เรามักจะนึกถึงสภาพอากาศที่เกิดภายนอกอาคาร แต่ในความป็นจริงแล้วอากาศภายในอาคารกลับเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้และอาจจะร้ายแรงกว่าสภาพอากาศภายนอกเสียด้วยซ้ำ จากผลสำรวจของสํานักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (U.S. Environmental Protection Agency : EPA) พบว่าระดับมลพิษทางอากาศภายในอาคารมักจะสูงกว่านอกอาคาร 2 ถึง 5 เท่า ในบางกรณีระดับเหล่านี้อาจจะเกิน 100 เท่าของระดับมลพิษทางอากาศชนิดเดียวกับภายนอกอาคาร ดังนั้นหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึงหันมาให้ความสนใจกับการนำเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์เข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้องค์กรมุ่งไปสู่ความยั่งยืนได้อีกด้วย

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการด้าน End-to-End Supply Chain ที่ครบวงจรตั้งแต่จัดหาสินค้า ช่วยตรวจสอบและไปจนถึงการช่วยลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์จัดหาช่องทางจัดจำหน่ายในประเทศต่างๆ ผ่าน connection และ global presences ทั่วโลก เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ยังให้ความสำคัญกับการเป็น ‘Trusted International Supply Chain Partner’ ที่จะเข้ามาช่วยให้ทั้งลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่ต้องการหาสินค้าหรือโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมสามารถก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรสีเขียวได้ตามเป้าหมาย ผ่านความเชี่ยวชาญด้านการจัดหาสินค้า เทคโนโลยีและโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมจากเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งของเอสซีจีอินเตอร์เนชั่นแนล ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนของเครือ SCG สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050

SCG International และ Keppel Land ร่วมมือเพื่อพัฒนาอาคารไปสู่เป้าหมาย net zero อย่างไร?

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล (SCG International) หน่วยงาน Green Business ได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการนำเอาเทคโนโลยีบำบัดอากาศเสียพร้อมลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ ที่ชื่อว่า SCG Air Scrubber เข้าสู่ตลาดสิงคโปร์ โดยมีการติดตั้งที่แรก ณ Keppel Bay Tower ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาฯ ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ภายใต้เครือ Keppel Land และยังเป็นอาคารแห่งแรกในสิงคโปร์ที่ได้รับรางวัลอาคารประหยัดพลังงาน หรือ Green Mark Platinum (Zero Energy) ซึ่งมีแผนที่จะพัฒนาและจัดการอาคารสู่อาคารสีเขียว โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2030 ให้ต่ำกว่าระดับในปี 2010 ถึง 40%

“แม้ว่าอาคาร Keppel Bay จะประสบความสำเร็จในการสร้างอาคาร Zero Energy แล้ว แต่ยังคงมองหาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ที่สามารถลดการใช้พลังงานของอาคารได้อีก เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จึงเล็งเห็นโอกาสในความร่วมมือ ประกอบกับความมั่นใจในคุณภาพของเทคโนโลยี SCG Air scrubber ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชั่นที่สามารถลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศของอาคารได้ จึงได้เสนอ POC (Proof Of Concept) ให้กับอาคาร Keppel Bay Tower โดยเริ่มติดตั้งและให้บริการที่ชั้น 12 และ 13 ด้วยความสำเร็จของการ POC ในครั้งนี้ที่สามารถช่วยให้อาคาร Keppel Bay ประหยัดพลังงานจากระบบปรับอากาศได้สูงสุด 30% ทำให้เครือ Keppel Land เชื่อมั่นและดำเนินการติดตั้ง SCG Air scrubber ทั้งอาคาร รวมถึงมีแผนขยายการติดตั้งที่อาคารอื่น ๆ ภายใต้เครือ Keppel Land ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นในการผลักดันธุรกิจสีเขียวร่วมกัน” — เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล

ระบบบำบัดอากาศเสีย พร้อมลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ (SCG Air Scrubber) เป็นเทคโนโลยีจาก เอสซีจี (SCG) ที่ถูกพัฒนาและออกแบบให้ตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ เจ้าของอาคารและเจ้าหน้าที่บริหารจัดการอาคาร (Facility Management) โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบปรับอากาศและระบายอากาศภายในอาคาร ลดมลพิษออกจากอากาศด้วยนวัตกรรมดูดซับสารพิษพิเศษ (Air Scrubber) ช่วยให้อากาศภายในอาคารสะอาด ลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ รวมถึงทำให้อาคารประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามของทีมงานในการเจรจาหารือร่วมกับคณะผู้บริหารของเครือ Keppel Land ตั้งแต่ช่วง Covid19 ปี 2020 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเป็น Trusted Partner ช่วยนำนวัตกรรมที่น่าสนใจเข้าไปสู่ตลาดอาเซียน พร้อมช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสีเขียวของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จในด้านความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจาก SCG Air Scrubber แล้วสำหรับองค์กรหรือผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ เจ้าของอาคารและเจ้าหน้าที่บริหารจัดการอาคาร (Facility Management) ที่กำลังมองหาสินค้า เทคโนโลยีและโซลูชันที่จะพาไปสู่เป้าหมายของความยิ่งยืน เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนลยังมีสินค้าและโซลูชันด้านนี้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาสินค้าโซลาร์ที่มีคุณภาพ แพลตฟอร์ม EV โซลูชัน ‘Smart Clean Mobility’ และอีกมากมาย

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อทีมงานของเราได้ที่นี่

The post ร่วมมือต่อยอดแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืนในสิงคโปร์ appeared first on SCG International.

]]>
เปลี่ยนเศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์สู่กำไรและความยั่งยืน https://scginternational.com/th/our-success-stories/transforming-label-waste-into-profit-and-sustainability/ Wed, 13 Sep 2023 12:25:11 +0000 https://scginternational.com/?p=11391 ธุรกิจ B2B หลายแห่งกำลังเร่งปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงระดับโลกให้นำไปสู่ความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน ในฐานะ ‘พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการซัพพลายเชนระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือ’ อย่าง SCG International ไม่เพียงแค่มอบโซลูชั่นด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงหาช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เรายังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดสินค้าและบริการในกลุ่มโซลูชันสีเขียว (Green solutions) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านกลยุทธ์ทางด้านซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง พาองค์กรและพาร์ทเนอร์มุ่งหน้าไปสู่ความยั่งยืน ในทุกๆ ปี เศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์จำนวนหลายล้านตันจะถูกส่งไปเผาทำลายและฝังกลบ แม้ว่าเศษกระดาษเหล่านั้นจะสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ก็ตาม Avery Dennison บริษัทด้านวัสดุศาสตร์และการผลิตระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการผลิตฉลากที่หลากหลาย มุ่งมั่นที่จะสร้างองค์กรและสังคมที่ยั่งยืน รวมถึงลดของเสียจากการฝังกลบ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนให้เกิดขึ้นภายในประเทศ เพื่อช่วยให้เป้าหมายของพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่าง Avery Dennison ประสบผลสำเร็จ SCG International จึงเข้ามาร่วมมือช่วยเหลือในกระบวนการรีไซเคิลตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในการจัดการซัพพลายเชน SCG International ได้เข้ามาช่วยลดขยะฝังกลบ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ โดยเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อวิสัยทัศน์เข้าสู่การปฏิบัติจริง ผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลที่หลากหลายในโครงการ ในแต่ละเดือนกระบวนการรีไซเคิลจะเริ่มจากการที่ SCG International เข้าไปเก็บและรวบรวมเศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์ที่ใช้แล้วจากโรงงาน ซึ่งเศษกระดาษเหล่านี้มักจะประกอบไปด้วยวัสดุหลายชนิดรวมทั้งซิลิโคน ต้องนำกระดาษเข้ามาผ่านกระบวนการกำจัดซิลิโคนอย่างเข้มงวดเพื่อขจัดสิ่งเจือปน เมื่อขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น วัสดุบริสุทธิ์จะถูกเปลี่ยนเป็นเยื่อกระดาษที่พร้อมสำหรับนำไปปรับเปลี่ยนและขึ้นรูปทรงได้ แทนที่จะถูกกำจัดทิ้งด้วยการเผาไหม้และฝังกลบ เยื่อกระดาษจะถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยกระบวนการรีไซเคิล [...]

The post เปลี่ยนเศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์สู่กำไรและความยั่งยืน appeared first on SCG International.

]]>

ธุรกิจ B2B หลายแห่งกำลังเร่งปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงระดับโลกให้นำไปสู่ความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน ในฐานะ ‘พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการซัพพลายเชนระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือ’ อย่าง SCG International ไม่เพียงแค่มอบโซลูชั่นด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงหาช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เรายังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดสินค้าและบริการในกลุ่มโซลูชันสีเขียว (Green solutions) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านกลยุทธ์ทางด้านซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง พาองค์กรและพาร์ทเนอร์มุ่งหน้าไปสู่ความยั่งยืน

ในทุกๆ ปี เศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์จำนวนหลายล้านตันจะถูกส่งไปเผาทำลายและฝังกลบ แม้ว่าเศษกระดาษเหล่านั้นจะสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ก็ตาม Avery Dennison บริษัทด้านวัสดุศาสตร์และการผลิตระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการผลิตฉลากที่หลากหลาย มุ่งมั่นที่จะสร้างองค์กรและสังคมที่ยั่งยืน รวมถึงลดของเสียจากการฝังกลบ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนให้เกิดขึ้นภายในประเทศ เพื่อช่วยให้เป้าหมายของพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่าง Avery Dennison ประสบผลสำเร็จ SCG International จึงเข้ามาร่วมมือช่วยเหลือในกระบวนการรีไซเคิลตั้งแต่ต้นจนจบ

ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในการจัดการซัพพลายเชน SCG International ได้เข้ามาช่วยลดขยะฝังกลบ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ โดยเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อวิสัยทัศน์เข้าสู่การปฏิบัติจริง ผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลที่หลากหลายในโครงการ ในแต่ละเดือนกระบวนการรีไซเคิลจะเริ่มจากการที่ SCG International เข้าไปเก็บและรวบรวมเศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์ที่ใช้แล้วจากโรงงาน ซึ่งเศษกระดาษเหล่านี้มักจะประกอบไปด้วยวัสดุหลายชนิดรวมทั้งซิลิโคน ต้องนำกระดาษเข้ามาผ่านกระบวนการกำจัดซิลิโคนอย่างเข้มงวดเพื่อขจัดสิ่งเจือปน เมื่อขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น วัสดุบริสุทธิ์จะถูกเปลี่ยนเป็นเยื่อกระดาษที่พร้อมสำหรับนำไปปรับเปลี่ยนและขึ้นรูปทรงได้ แทนที่จะถูกกำจัดทิ้งด้วยการเผาไหม้และฝังกลบ เยื่อกระดาษจะถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยกระบวนการรีไซเคิล โดยใช้ในการผลิตสินค้าหลัก ๆ ได้แก่ กระดาษ A4 กระดาษอาร์ต และกระดาษแข็งสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ต่อไป กระบวนการรีไซเคิลในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความร่วมมือสำคัญในอุตสาหกรรมการจัดการขยะและการรีไซเคิลที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

ความร่วมมือระหว่าง Avery Dennison และ SCG International เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ว่าจะสามารถส่งเสริมความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อกันได้อย่างไร ผ่านขั้นตอนและกระบวนการทำงานที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการผลิต การวางแผนจัดการกับขยะแบบมีกลยุทธ์ หรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านการจัดการซัพพลายเชน ในโลกที่ทุกการตัดสินใจสามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญในวงกว้าง หากร่วมมือกันเราก็จะสามารถสร้างมรดกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปได้ รวมถึงสร้างความยั่งยืนและผลกำไรผ่านเป้าหมายของการจัดการธุรกิจที่ใส่ใจและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

The post เปลี่ยนเศษแผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์สู่กำไรและความยั่งยืน appeared first on SCG International.

]]>
Key Success ของ Siam Kubota ในการขยายตลาดอาเซียน https://scginternational.com/th/our-success-stories/kubota-expansion/ https://scginternational.com/th/our-success-stories/kubota-expansion/?noamp=mobile#respond Tue, 14 Feb 2023 07:45:20 +0000 https://scginternational.com/?p=4428 การเติบโตจากธุรกิจในประเทศไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ และก้าวสู่การเป็น Global Brand ไม่ใช่เรื่องง่าย ถือเป็นความท้าทายของทุกแบรนด์ เพราะแม้ว่าจะเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของประเทศ ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ ความท้าทายของการขยายตลาดไปในภูมิภาคจึงไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพของสินค้า แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย Siam Kubota ผู้นำเครื่องจักรกลทางการเกษตร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยหนึ่งในภูมิภาคที่ทางบริษัทตั้งเป้าหมายเอาไว้ในการขยายตลาด ก็คือ ตลาดอาเซียน โดยได้จับมือกับ SCG International ในการช่วยขยายธุรกิจและก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ ความท้าทายในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก การก้าวสู่ Global Brand นั้น มีความท้าทายอยู่มากเนื่องจากมีความแตกต่างทางด้านภาษา ประเพณี ความเชื่อ และวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงความแข็งแกร่งของ Local Brand ที่เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่าแบรนด์จากต่างประเทศ การจับมือกับพาร์ทเนอร์หรือพันธมิตรที่มีความรู้เรื่องตลาดและกฎระเบียบในท้องถิ่นนั้น ๆ จึงมีความสำคัญ โดยมีความท้าทายที่ต้องเผชิญดังต่อไปนี้ ความเข้าใจลูกค้าและตลาดใหม่อย่างลึกซึ้ง ทั้งลักษณะทางประชากรศาสตร์ (Demographic) โดยดูว่ามีกลุ่มผู้บริโภคแบบไหน [...]

The post Key Success ของ Siam Kubota ในการขยายตลาดอาเซียน appeared first on SCG International.

]]>

การเติบโตจากธุรกิจในประเทศไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ และก้าวสู่การเป็น Global Brand ไม่ใช่เรื่องง่าย ถือเป็นความท้าทายของทุกแบรนด์ เพราะแม้ว่าจะเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของประเทศ ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ ความท้าทายของการขยายตลาดไปในภูมิภาคจึงไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพของสินค้า แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

Siam Kubota ผู้นำเครื่องจักรกลทางการเกษตร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยหนึ่งในภูมิภาคที่ทางบริษัทตั้งเป้าหมายเอาไว้ในการขยายตลาด ก็คือ ตลาดอาเซียน โดยได้จับมือกับ SCG International ในการช่วยขยายธุรกิจและก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ

ความท้าทายในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก

การก้าวสู่ Global Brand นั้น มีความท้าทายอยู่มากเนื่องจากมีความแตกต่างทางด้านภาษา ประเพณี ความเชื่อ และวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงความแข็งแกร่งของ Local Brand ที่เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่าแบรนด์จากต่างประเทศ การจับมือกับพาร์ทเนอร์หรือพันธมิตรที่มีความรู้เรื่องตลาดและกฎระเบียบในท้องถิ่นนั้น ๆ จึงมีความสำคัญ โดยมีความท้าทายที่ต้องเผชิญดังต่อไปนี้

ความเข้าใจลูกค้าและตลาดใหม่อย่างลึกซึ้ง

ทั้งลักษณะทางประชากรศาสตร์ (Demographic) โดยดูว่ามีกลุ่มผู้บริโภคแบบไหน อายุ เพศ การศึกษา และอาชีพเป็นอย่างไร เพื่อศึกษาถึงพฤติกรรมการบริโภคว่ามีความต้องการอย่างไรบ้าง

การสรรหาบุคลากรท้องถิ่นที่เข้าใจสินค้าและตลาด

ผู้ประกอบการต้องหาพาร์ทเนอร์และบุคลากรท้องถิ่นที่มีความเข้าใจทั้งเรื่องสินค้าของแบรนด์และตลาดอย่างแท้จริง ทั้งยังมีความพร้อมทั้งในด้านทรัพยากรและเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงมี Global Presence ในประเทศดังกล่าว

กฎระเบียบข้อบังคับที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่

การร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งเรื่องการตลาดในท้องถิ่นและความแม่นยำในเรื่องกฎระเบียบในพื้นที่ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้

ความแตกต่างทางวัฒนธรรม

แบรนด์จะต้องเข้าใจและรู้จักวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างถ่องแท้ เพื่อไม่ให้ขัดต่อความเชื่อหรือวัฒนธรรมในท้องถิ่น

กำแพงทางด้านภาษา

การรู้ภาษาท้องถิ่นจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มผู้บริโภค และช่วยให้สามารถติดต่อกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นได้อย่างราบรื่น SCG International เข้าใจถึงความท้าทายในการขยายตลาดต่างประเทศ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยพาร์ทเนอร์บุกตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยบริการ Market Expansion Service

ความร่วมมือในการขยายตลาดของ Siam Kubota กับ
SCG International ในตลาดอาเซียน

หากพูดถึงแบรนด์เครื่องจักรกลทางการเกษตรในไทยและเอเชีย แบรนด์ Kubota จะเป็นแบรนด์ที่หลายคนนึกถึงเป็นแบรนด์แรก ๆ โดยเป็นแบรนด์เจ้าตลาดในประเทศไทยที่มี Market Share สูงถึง 70-80% เป้าหมายต่อไปของแบรนด์คือการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม โดยมีสินค้าหลักคือ เครื่องยนต์ดีเซลคูโบต้า (Diesel Engine)

ความท้าทายและโอกาส ในการขยายตลาดของ Siam Kubota ในอาเซียน

ประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่จะเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ พยายามขับเคลื่อนแนวทาง Smart Agriculture เพื่อเพิ่มผลผลิต และทุ่นแรงงานในการทำการเกษตร ซึ่งเครื่องจักรกลทางการเกษตรก็เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยประหยัดทั้งเวลา แรงงาน และต้นทุน

แนวคิด Smart Agriculture ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำการเกษตรในหลากหลายประเทศ ทั้งที่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในสหภาพยุโรป ที่ใช้แรงงานเพียงไม่กี่คนก็สามารถปลูกพืชผลทางการเกษตรได้ผลดี ทาง Siam Kubota จึงเห็นโอกาสนี้ในการขยายตลาดสินค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตรไปยังประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Siam Kubota เป็นแบรนด์รถจักรทางการเกษตรที่ประสบความสำเร็จทั้งที่ญี่ปุ่นและในไทย แต่ในประเทศแถบอาเซียน ยังมีความท้าทายที่สำคัญที่ต้องก้าวข้ามผ่าน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ลึกรู้จริงในตลาด Local ของแต่ละประเทศ ทั้งการวางระบบบริการหลังการขาย อย่างการซ่อมแซมและความพร้อมของอะไหล่ รวมถึงการขาดดีลเลอร์หรือพันธมิตรทางธุรกิจท้องถิ่น ที่เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจให้เกิดความราบรื่น

ด้วยเหตุนี้ ทาง Siam Kubota จึงมองหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดอาเซียน อย่าง SCG International ที่มีประสบการณ์ด้านซัพพลายเชนระหว่างประเทศ (International Sypply Chain) และการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ (Global Market Expansion) มากว่า 40 ปี

SCG International ได้เข้ามาดูแลเรื่อง Marketing and Distribution ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการ End to End Supply Chain โดยมีทีมงานท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดแบบเชิงลึก และสามารถลดขั้นตอนเกี่ยวกับเอกสารที่มีความสลับซับซ้อน พร้อมการช่วยจับคู่ธุรกิจ ให้คำปรึกษาและแนะนำการขยายตลาดไปต่างประเทศที่เหมาะสมกับธุรกิจ ช่วยให้ Siam Kubota สามารถเติบโตอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ

บริการของ SCG International ในฐานะพาร์ทเนอร์ของ Siam Kubota

“อาเซียน” เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศพื้นที่เศรษฐกิจด้านการเกษตรขนาดใหญ่ โดยมีสัดส่วนของ GDP ภาคเกษตรในปี 2022 อยู่ที่ 9.2% เติบโตจากปีก่อน 2.2% และยังเป็นภูมิภาคที่มีเกษตรกรรายย่อยมากกว่า 100 ล้านคน Siam Kubota จึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดเครื่องจักรกลทางการเกษตร จากประเทศไทยไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

ด้วยเหตุนี้ Siam Kubota จึงร่วมมือกับ SCG International ซึ่งมี Global Presence ในประเทศกัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมาย รวมถึงมี Local Staff ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญคอยรวบรวม Local Insight และบริหารจัดการด้านซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ Siam Kubota สามารถขยายตลาดในอาเซียนและกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจในท้ายที่สุด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ทำข้อมูลการตลาด (Market Insight) และวางกลยุทธ์ทางการตลาด ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลลูกค้าและกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมในประเทศนั้น ๆ ผ่าน Local Staff ที่มีความเชี่ยวชาญ

  • สร้างระบบตัวแทนจำหน่ายที่มีคุณภาพ มอบสินค้าและบริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อมอบบริการให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าอย่างทั่วถึง SCG International ได้เข้ามาช่วยจับคู่ธุรกิจกับดีลเลอร์ที่มีคุณภาพในพื้นที่เป้าหมาย โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า และการบริการหลังการขายที่รวดเร็วและเป็นมืออาชีพ สร้างความยั่งยืนและมูลค่าของแบรนด์ให้มากกว่าราคา รวมถึงช่วย Siam Kubota ควบคุมมาตรฐานการตกแต่งหน้าร้านดีลเลอร์ให้เป็นไปตามที่ Siam Kubota กำหนด ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ และมีความมั่นใจในคุณภาพของการให้บริการ

  • ดูแลบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดย SCG International ได้เข้ามาช่วย Siam Kubota สร้างระบบบริการหลังการขาย ภายใต้โมเดล 3S คือ Sales ขายสินค้าคุณภาพ Service ให้บริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และ Spare parts จัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่ให้ทันต่อการซ่อมบำรุง เพื่อให้บริการลูกค้าได้ทันท่วงที

  • ให้บริการจัดการ Supply Chain การตรวจสอบสินค้าและจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศนับว่าเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ เพื่อให้ได้สินค้าและอะไหล่ที่มีคุณภาพ SCG International ได้นำประสบการณ์ด้านซัพพลายเชนกว่า 40 ปีมาจัดการกับรอยต่อทั้งหมดให้ราบรื่น เช่น จัดการเอกสารระหว่างประเทศ ความซับซ้อนด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าสินค้าและอะไหล่ทุกชิ้นจะถูกตรวจสอบและจัดส่งได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ

  • ออกแบบฝึกอบรมทีมงานให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม ทั้ง SCG International และ Siam Kubota ต่างก็ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า จึงร่วมกันออกแบบแผนการฝึกอบรมทีมงานให้เข้าใจเกี่ยวกับสินค้าและการใช้งานอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพของการบริการที่ต่อเนื่องยาวนาน

  • ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้แทนจำหน่าย ผ่านโปรแกรมส่งเสริมการขาย ด้วยการดูแลจัดหาสินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้กับเกษตรกร ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลสำเร็จของความร่วมมือ สู่ผู้นำในตลาดเครื่องจักรกล
ทางการเกษตรของอาเซียน

จากการร่วมมือกันระหว่าง Siam Kubota และ SCG International ทำให้เครื่องจักรกลทางการเกษตรของแบรนด์ Siam Kubota มีชื่อเสียงและได้รับความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพทั้งสินค้าและบริการ สร้างยอดขายให้เติบโตในตลาดอาเซียน

ไม่เพียงแค่ตลาดอาเซียนเท่านั้น ทั้งสองบริษัทยังมีแผนที่จะจับมือกันขยายตลาดในภูมิภาคอื่นของโลก อย่างบังกลาเทศ หรือเคนยา ซึ่งเป็นประเทศที่มีความต้องการด้านสินค้าและบริการด้านเกษตรกรรมสูง โดยทาง SCG International ได้นำเอาความเชี่ยวชาญกว่า 40 ปี ด้านการทำธุรกิจต่างประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการ Supply Chain เข้ามาวางแผนกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ ให้พาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพสินค้า การจัดการด้านโลจิสติกส์และเอกสารที่ซับซ้อน การดูแลด้านการเงินและสินเชื่อกับเครือข่าย Dealer การให้คำแนะนำ (Consult) ด้านการตลาดและ Local Insight รวมถึงให้บริการและเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วผ่านทีมงานในแต่ละประเทศ

SCG International ผู้ให้บริการซัพพลายเชนระหว่างประเทศแบบครบวงจร (End to End Supply Chain Service) ที่มีเครือข่ายทั่วโลก (Global Network) พร้อมด้วยทีม Local Staff ที่มีความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นกว่า 50 ประเทศ ช่วยต่อยอดธุรกิจให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผ่านบริการ Market Expansion Service Provider ช่วยให้มั่นใจว่าจะมีพาร์ทเนอร์มืออาชีพคอยดูแลและให้คำปรึกษา ติดต่อเรา

The post Key Success ของ Siam Kubota ในการขยายตลาดอาเซียน appeared first on SCG International.

]]>
https://scginternational.com/th/our-success-stories/kubota-expansion/feed/ 0