SCG International นำโดย พี่อบิจิต ดัตต้า เปิดตัว “Siam Signature” แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มไทยระดับพรีเมียม ณ Tamimi Markets สาขา An Nuzhah ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำรสชาติไทยแท้เข้าสู่ตลาดซาอุดีอาระเบีย

งานเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศซาอุดีอาระเบีย คุณดามพ์ บุญธรรม และคุณ Ayham Nasser ผู้บริหารระดับสูงจาก Tamimi Markets ร่วมเน้นย้ำถึงบทบาทของการเปิดตัวนี้ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย

คุณดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทยประจำซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “งานนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงมิตรภาพและความร่วมมือที่เติบโตขึ้นระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย อาหารไทยเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยรสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อมและมีความเป็นเอกลักษณ์ การเปิดตัว Siam Signature ถือเป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรมอาหารไทยไปยังผู้บริโภคในซาอุดีอาระเบีย ต้องขอบคุณ SCG International ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม SCG ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านนวัตกรรม คุณภาพ และความเป็นเลิศ”

คุณ Ayham Nasser หัวหน้าฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าจาก Tamimi Markets กล่าวเสริมว่า “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ SCG International เพื่อนำ Siam Signature มาสู่ซาอุดีอาระเบีย การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราที่จะนำเสนอรสชาติที่ดีที่สุดจากทั่วโลกให้กับลูกค้าของเรา”

คุณอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการของ SCG International กล่าวเน้นย้ำว่า “Siam Signature แสดงถึงประเพณีอันล้ำค่าของอาหารไทย และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ SCG International ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมสู่ตลาดโลก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับสถานทูตไทยและ Tamimi Markets เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเหล่านี้ ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาหารนานาชาติระดับพรีเมียมในตลาดที่มีชีวิตชีวาและเปี่ยมไปด้วยโอกาสนี้”

SCG International มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ นำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ในภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ เทคโนโลยีการก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง สินค้าเพื่อกลุ่มอุตสาหกรรม กระดาษและบรรจุภัณฑ์ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม

นายดัตต้า สรุปว่า “Siam Signature ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างการเติบโตและความสำเร็จที่ยั่งยืนในซาอุดีอาระเบีย”

เมื่อธุรกิจเติบโตไปถึงจุดหนึ่ง สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง คือเรื่องของการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เพราะในขณะที่การแข่งขันภายในประเทศเริ่มเข้าสู่จุดอิ่มตัว การขยับขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ จะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตมากขึ้น และสามารถก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในตลาดได้ อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจอีกด้วย ซึ่งหากมีพาร์ตเนอร์ที่มีการจัดตั้งบริษัทอยู่ในประเทศนั้น ๆ เพื่อดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายไปยังตลาดต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง

มาดูกันว่า การเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทที่มีทีมงานท้องถิ่นเพื่อการขยายธุรกิจ อย่าง SCG International มีข้อดีอย่างไร

การมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่เป็นทีมงานท้องถิ่น และมีการจดทะเบียนบริษัทอยู่ในประเทศนั้น ๆ จะช่วยให้การขยายธุรกิจไปต่างประเทศดำเนินการได้อย่างสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทางกฎหมายในการขยายธุรกิจ หรือ การซื้อขายสินค้าในสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน รวมถึงการขนส่งแบบ Last-Mile Logistics นอกจากนี้ ยังมาพร้อมความสะดวกในรูปแบบของบริการหลังการขายที่รวดเร็วและครอบคลุม ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคง

การดำเนินงานของทีมงานท้องถิ่นเพื่อการขยายธุรกิจจาก SCG International เป็นไปด้วยความโปร่งใส ด้วยประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าบริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมมานานกว่า 45 ปี รวมถึงการที่เรามีการจดทะเบียนบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจในหลากหลายประเทศ จึงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพาร์ตเนอร์ได้ว่าเราจะสามารถให้บริการด้านการขยายธุรกิจได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ เรายังมีความเข้าใจในเรื่องกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศ จึงสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว

ทีมงานท้องถิ่นของ SCG International เป็นทีมงานที่มีทักษะ มีประสบการณ์ ทั้งยังมีความเข้าใจในตลาดของแต่ละประเทศ รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และผู้เล่นในตลาดของประเทศนั้น ๆ จึงสามารถช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์ในการขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้าของเราเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขยายธุรกิจไปยังประเทศที่มีการแข่งขันสูง การมีทีมงานท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้คุณได้เปรียบมากขึ้น

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพ การวางกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ การปฏิบัติตามกฎหมายการค้าในแต่ละประเทศ รวมถึงการเลือกวิธีจัดส่งสินค้าที่เหมาะสม หากกำลังมองหาบริการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ ที่สามารถพาคุณก้าวไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา หรืออเมริกา สามารถปรึกษา SCG International ได้เลย เราพร้อมที่จะพาธุรกิจของคุณมุ่งไปสู่ความสำเร็จในตลาดโลก เพื่อช่วยขยายขีดความสามารถทางธุรกิจให้เติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ International Business Expansion Consulting จาก SCG International จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 45 ปี พร้อมทีมงานท้องถิ่นเพื่อการขยายธุรกิจ (Local Presences) ในกว่า 20 ประเทศ เราเป็นพาร์ตเนอร์ในการขยายตลาดให้กับธุรกิจมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในกลุ่มวัสดุอุตสาหกรรม กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มบ้านและที่อยู่อาศัย กลุ่มพลังงาน กลุ่มกระดาษและบรรจุภัณฑ์ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มวัสดุรีไซเคิล เราพร้อมนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจร เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น เสริมแกร่งโซลูชันจัดการซัพพลายเชนครบวงจรตั้งแต่ตั้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ส่ง สยาม เซย์ซอน (Siam Saison) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จํากัด บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด และ บริษัท เซย์ซอน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เข้ามาเติมเต็มภาพความต่อเนื่องของการจัดการซัพพลายเชนให้สมบูรณ์มากขึ้น พร้อมวางกลยุทธ์เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจและสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจอันแข็งแกร่ง (Ecosystem Business) ที่เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้ซื้อ ที่เป็นผู้รับเหมาขนาดกลางและงานโครงการ ผู้ขายวัสดุก่อสร้าง ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) และผู้จัดจำหน่าย (Distributor) ไปจนถึงวงเงินสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย อาทิ กลุ่มธุรกิจสินค้าวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมรถยนต์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมกระดาษและอาหาร ผ่านการให้เครดิตในการซื้อขายสินค้า โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันในการใช้บริการ และให้วงเงินสูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย เพื่อส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มธุรกิจไทยที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า ผู้ประกอบการ และผู้รับเหมาที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล คาดเป้าปล่อยวงเงิน 3 พันกว่าล้านบาทในปี 2567

ปัจจุบัน สยาม เซย์ซอน ได้มีการมอบวงเงินสำหรับธุรกิจไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านบาท และมีการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา 72% โดยที่ผ่านมา สยาม เซย์ซอน ยังร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับร้านวัสดุก่อสร้างในประเทศไทยหลายราย ไม่ว่าจะเป็น โกลบอลเฮ้าส์ (Global House) บุญถาวร (Boonthavorn) ยงเฮ้าส์ (Yong House) ฮาร์ดแวร์เฮาส์ คอร์ปอเรชั่น (Hardware House Corporation) และอื่น ๆ ในกลุ่มร้านวัสดุก่อสร้างกระจายไปทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของร้านวัสดุก่อสร้างให้มีวงเงินและเครดิตในการซื้อสินค้าไปขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

“เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล มีความมุ่งมั่นที่จะเป็น ‘A Trusted International Supply Chain Partner’ ให้กับคู่ธุรกิจ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นจัดการซัพพลายเชนให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โซลูชันด้านการเงินของ สยาม เซย์ซอน เป็นบริการที่มาเติมเต็มภาพความต่อเนื่องของการจัดการซัพพลายเชนได้ครบวงจรและสมบูรณ์มากขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำธุรกิจต่างประเทศของเรามากกว่า 40 ปี ทำให้เรามีความเข้าใจลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม และลูกค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง ในการบริหารธุรกิจที่และซัพพลายเชนมีความเฉพาะตัว จึงออกมาเป็นโมเดลธุรกิจอย่าง สยาม เซย์ซอน ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มศักยภาพของผู้ประกอบการให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” คุณอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด

นอกจากนี้ คุณจิรพันธ์ สกุลวงศ์ – กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม เซย์ซอน จำกัด ยังกล่าวเสริมว่า “แนวโน้มการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศไทยปี 2566 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1.48 ล้านล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ส่งผลให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านการเงินที่จะต้องใช้ในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับการจัดการธุรกิจ เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพทางการเงิน ให้มีความสามารถด้านการแข่งขันในช่วงที่อุตสาหกรรมเติบโต ที่ผ่านมาเราได้ให้เครดิตกับลูกค้ากลุ่มธุรกิจมาในหลายอุตสาหกรรม ทำให้เรามีความเข้าใจลูกค้าว่ามีอุปสรรคในการบริหารสภาพคล่องของธุรกิจอย่างไร ในประเทศไทยมีผู้ประกอบการอีกมากมายที่มีศักยภาพในการเติบโต แต่มีความท้าทายในการขอวงเงินขยายธุรกิจกับโซลูชั่นการเงินแบบเดิม สยาม เซย์ซอน จึงมีความมุ่งหวังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น”

สยาม เซย์ซอน มีประสบการณ์และมีความเข้าใจธุรกิจ B2B ที่หลากหลาย จึงมีเป้าหมายที่จะขยายโซลูชันทางการเงินไปยังกลุ่มธุรกิจสินค้าวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมรถยนต์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมกระดาษและอาหาร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ลูกค้าสะดวกในการใช้งาน ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ทำงานแบบ real-time และมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญคอยประเมิน และให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้บริการให้สามารถก้าวข้ามอุปสรรคทางสภาพคล่องในการทำธุรกิจไปได้ สนใจสมัครใช้บริการเซย์ซอนเครดิต (Saison Credit) วงเงินสำหรับซื้อสินค้าและขยายธุรกิจ วงเงินปลอดดอกเบี้ย 45-60 วัน ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมบริการผ่อนชำระ 3-6 เดือน หรือบริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (Business Loan) ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งขยายธุรกิจต่อเนื่องในระดับสากล เตรียมเปิดสำนักงานใหม่ ณ เมืองริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจ และเจาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ (Giga-project) จากวิสัยทัศน์ 2030 ของ มกุฎราชกุมาร มุฮัมมัด บิน ซัลมาน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยไม่พึ่งพาน้ำมัน ผ่านการลงทุนในด้านต่างๆ เช่น ภาคการผลิต การท่องเที่ยว รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นโอกาสในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัย ที่จะอำนวยความสะดวกต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีการกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้ากับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย จึงเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับ เครือเอสซีจี โดยเฉพาะ บริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นตัวแทนในการทำการค้าระหว่างประเทศ